ทีมชาติไทยในฟุตบอลซีเกมส์


ทีมชาติไทยในฟุตบอลซีเกมส์

ฟุตบอลในกีฬาซีเกมส์นั้นถือเป็นอีกหนึ่งรายการสำคัญในภูมิภาคอาเซียน รองลงมาจากเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เดิมทีนั้นกีฬาซีเกมส์ใช้ชื่อว่ากีฬาแหลมทอง โดยฟุตบอลในมหกรรมกีฬานี้เริ่มมีขึ้นในปี 1959 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ นักเตะของทีมชาติไทยในชุดนั้น อาทิ สุชาติ มุทุกัณฑ์, วิชิต แย้มบุญเรือง, สำรวย ไชยยงค์ รวมถึงบำเพ็ญ ลัทธิมนต์ ซึ่งนักเตะที่ถูกบันทึกชื่อว่าเป็นผู้ทำประตูแรกให้กับทีมชาติไทย ในฟุตบอลซีเกมส์ก็คือ ประเทศ สูตะบุตร ทำได้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ปี 1959 ในเกมที่ทีมชาติไทยเอาชนะมาเลเซีย 3-1 แต่ในครั้งนั้นทีมช้างศึกทำได้ดีที่สุดเพียงตำแหน่งเหรียญเงิน

หลังจากนั้นทีมชาติไทยก็ได้สัมผัสเหรียญทองเป็นครั้งแรก ในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 3 ปี 1965 โดยในรอบชิงฯ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ปีดังกล่าว ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทีมของพลเอก ประเทียบ เทศวิศาล เสมอกับพม่า 2-2 จึงครองเหรียญทองร่วมกัน

ต่อจากนั้น ในซีเกมส์ ครั้งที่ 4 ปี 1967 ทีมชาติไทยที่มีนักเตะอย่างชัชชัย พหลแพทย์, ณรงค์ สังขสุวรรณ, ยรรยง ณ หนองคาย, นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ รวมถึงอุดมศิลป์ สอนบุตรนาค นำทีมชาติไทยเข้ารอบชิงฯ แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อพ่ายแพ้ให้กับพม่า 0-3 ซึ่งทีมชาติพม่าแข็งแกร่งอย่างมากในยุคนั้น พวกเขาสามารถคว้าเหรียญทองไปครองได้ถึง 4 สมัยติดต่อกัน กระทั่ง กีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 8 ปี 1975 เป็นทีมชาติไทยที่ทำสำเร็จได้เหรียญทองมาครองอีกครั้งเป็นสมัยที่สอง ซึ่งอีก 2 ปีถัดจากนั้น คือในปี 1977 การแข่งขันได้เปลี่ยนชื่อจากกีฬาแหลมทองมาเป็นกีฬาซีเกมส์ โดยมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ และทีมเสือเหลืองก็ประเดิมเหรียญทองแรกในชื่อของซีเกมส์ ด้วยการชนะทีมชาติไทยในรอบชิงฯ 2-0

ทีมชาติไทยว่างเว้นจากเหรียญทองเป็นเวลา 6 ปี จนถึงซีเกมส์ครั้งที่ 11 ปี 1981 ที่ฟิลิปปินส์ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, วรวรรณ ชิตะวณิช, เฉลิมวุฒิ สง่าพล, มาดาด ทองท้วม, ชลอ หงษ์ขจร และขุนพลจากลุ่มน้ำเจ้าพระยารายอื่นๆ ช่วยกันพาทีมชาติไทยกลับมาครองแชมป์ได้อีกครั้ง และได้เหรียญทองอีกสองครั้งติดต่อกัน (1981, 1983, 1985)

แต่หลังจากนั้น ทีมชาติไทยก็ไม่สามารถคว้าเหรียญทองมาได้อีกเลยตลอดระยะเวลา 8 ปีเต็ม กระทั่งปี 1993 หรือซีเกมส์ครั้งที่ 17 ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ และเป็นการแจ้งเกิดของกองหน้าจอมตีลังกา 'ซิโก้' เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เพราะนับจากครั้งนั้นที่ไทยได้เหรียญทองมาครอง ก็เป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์การครองแชมป์ถึง 8 สมัยซ้อน (1993 ถึง 2007)

ทว่าปี 2001 มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยปีนั้นเป็นครั้งแรกที่เริ่มมีการจำกัดอายุนักเตะไม่เกิน 23 ปี แข่งขันที่มาเลเซีย ทีมชาติไทยสามารถคว้าเหรียญทองมาครองเพิ่มอีกหนึ่งสมัย ซึ่งนับเป็นเหรียญทองที่ 10 พอดีของทีมชาติไทยในทัวร์นาเมนต์นี้

ครั้งถัดมา ซีเกมส์ ปี 2003 ที่เวียดนาม ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ กลายเป็นฮีโร่ เมื่อกองหลังถนัดซ้ายรายนี้ เป็นผู้ยิงประตูชัย ช่วยให้ทีมชาติไทยเอาชนะเจ้าภาพอย่างเวียดนาม ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 จากนั้นในเกมรอบชิงฯ ปี 2005 ที่ฟิลิปปินส์ เป็นทางด้านธีรเทพ วิโนทัย กระหน่ำแฮตทริกพาทัพช้างศึกครองเหรียญทองได้สำเร็จ และต่อเนื่องอีกหนึ่งสมัย ในปี 2007 ที่จ.นครราชสีมา

แต่หลังจากนั้น ความยิ่งใหญ่ก็ต้องหยุดชะงักลง เมื่อซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาว ในปี 2009 ทีมชาติไทยก็ต้องพลาดท่าตกรอบแรกแบบไม่คาดคิด ซึ่งเป็นการตกรอบแรกครั้งแรกในรอบ 36 ปี และแฟนฟุตบอลไทยต้องผิดหวังต่อเนื่อง ในปี 2011 ที่อินโดนีเซีย ทีมชาติไทย ตกรอบแรกเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน

ทว่าครั้งถัดมา เมื่อปี 2013 ที่เมียนมาร์ ทีมชาติไทยภายใต้การนำของเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการคว้าเหรียญทองมาให้แฟนบอลไทยได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นแชมป์สมัยที่ 14 ของทีมชาติไทยในรายการนี้ ทั้งนี้ 'ซิโก้' ยังนับเป็นคนที่ 3 ที่สามารถได้เหรียญทองซีเกมส์มาครอง ทั้งในฐานะนักเตะและโค้ช ต่อจาก ยรรยง ณ หนองคาย, วิทยา เลาหกุล ขณะที่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ถือกำเนิดขึ้น เมื่อไพโรจน์ พ่วงจันทร์ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กลายเป็นตระกูลพ่อลูกตระกูลแรก ที่ได้เหรียญทองฟุตบอลซีเกมส์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น